ชาผูเอ่อร์ดิบปังเวยต้นโบราณ (邦威古树生茶)
อัพเดทล่าสุด: 26 มี.ค. 2025
29 ผู้เข้าชม
ชาผูเอ่อร์ คืออะไร
- ในสมัยโบราณ ชาวจีนเรียกชาจากยูนนานว่า ชาอัดก้อนกลม ส่งขายไปตามเส้นทางค้าชาโบราณ ฉาหมากู่เต้า เป็นสินค้าสำคัญมากไม่แพ้เกลือ
- เพิ่งจะมาเรียกว่า ชาผูเอ่อร์ ก็ตอนจักรพรรดิหย่งเจิ้ง ราชวงศ์ชิงส่งตัวแทนมาตั้งป้อมปกครองที่เมืองผูเอ่อร์ แล้วส่งส่วยไปเข้าวัง ซึ่งมีชาจากที่นี่ส่งไปด้วย คนในวังจึงเรียกว่า ชานี้ว่า ชาผูเอ่อร์
- ชาผูเอ่อร์เป็นประเภทชาดำ (เฮยฉา 黑茶 ) ซึ่งเป็นชาที่สามารถเกิดทั้ง oxidation และ fermentation อย่างช้า ๆ เกิดเป็นการพัฒนารสชาติที่ซับซ้อน ยิ่งเก่ายิ่งมีกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ และรสชาติที่กลมกล่อม ชานี้จึงมีคุณค่ามากขึ้นตามกาลเวลา และได้มาด้วยการรอเท่านั้ัน
- แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ ผูเอ่อร์ดิบ (เชิงฉา 生茶) กับ ผูเอ่อร์สุก (โชวฉา 熟茶)
ชาผูเอ่อร์ดิบปังเวย
- ชาผูเอ่อร์ดิบปัจจุบัน มีจุดขายอยู่ที่พื้นที่เพาะปลูกที่ส่งผลให้มีรสชาติต่างกัน ดังนั้ัน ชาจะถูกตั้งชื่อตามแหล่งที่มา ฤดูเก็บเกี่ยว วัตถุดิบ ในตอนนี้ของยกตัวอย่างแค่ แหล่งที่มา
- แบ่งระดับความเจาะจงดังนี้ ยิ่งระบุเจาะจงว่าชามาจากที่ไหน ก็ยิ่งมีราคาสูง
- ชื่อภูเขา
- ชื่อแหล่งเพาะปลูกในเขา
- ชื่อกลุ่มของหมู่บ้าน
- ชื่อหมู่บ้านเดี่ยว
- ชื่อกลุ่มของหมู่บ้าน
- ชื่อแหล่งเพาะปลูกในเขา
- ชื่อภูเขา
- ปังเวย คือ ชื่อหมู่บ้านในเขาผูเอ่อร์ เป็นพื้นที่ที่มีต้นชาโบราณอยู่มาก จุดขายจึงเป็นเรื่องอายุต้นชาที่ให้รสน้ำชาที่เข้มข้น เนียนนุ่ม ยิ่งชงยิ่งหวาน ชงทนมาก ทิ้งรสหวานไว้ในปากและลิ้นยาวนาน
ทำไมต้องต้นโบราณ
- ที่ยูนนาน ถ้าเป็นชาป่าจะปล่อยให้เติบโตสูงขึ้นไปเรื่อย ๆ และมีการจำแนกวัตถุดิบตามอายุต้นชา
- ยิ่งอายุเยอะ รากต้นชาก็ลึกขึ้น ทำให้หาสารอาหารเก่งขึ้น รสน้ำชาจึงมีมิติ เข้มข้นและชงทนมากขึ้น
- มาตราฐานการแบ่งเกรดชาของทางการยูนนาน แบ่งได้ดังนี้
- ชาโบราณระดับพิเศษ ((特级古树) : ต้นชาอายุมากกว่า 1000 ปี
- ชาโบราณเกรด 1 (一级古树) : ต้นชาที่มีอายุ 500-999 ปี
- ชาโบราณเกรด 2 (二级古树) : ต้นชาที่มีอายุ 300-500 ปี
- ชาโบราณเกรด 3 (三级古树) : ต้นชาที่มีอายุระหว่าง 100-300 ปี
- ชาต้นใหญ่ (大树 ต้าซู่) : ต้นชาที่มีอายุระหว่าง 50-100 ปี
- ชาต้นเล็ก (小树) : ต้นชามีอายุต่ำกว่า 50 ปี
- ชาต้นโบราณเมื่อดื่มเข้าไป จะรู้สึกถึงความเข้มข้น หนืด และเนียนนุ่มของน้ำชา มีรสชาติละมุน หวาน และมีชั้นของรสชาติที่ซับซ้อน เป็นที่ชื่นชอบของคอชาผูเอ่อร์นั่นเอง
- อย่างไรก็ตามต้นโบราณไม่ได้อร่อยคุ้มราคา ต้องประเมินความกลมกล่อม ประสบการณ์ด้านอื่นๆ ร่วมด้วย
วิธีชงชาผูเอ่อร์ดิบปังเวย
- ปริมาณชา : 5 กรัม ต่อน้ำ 100 ml
- อุณหภูมิน้ำ : 100 องศาเซลเซียส
- เวลาแช่ :
- ลวกชา 5 วินาที
- ชงครั้งละ 10 วินาที จนกว่าชาจะจืดจึงเพิ่มเวลา
- ข้อแนะนำ
- หากเป็นชาผูเอ่อร์ดิบใหม่ปีแรก ๆ รสฝาดขมจะชัดเจน การใช้กาจื่อหนี หรือต้วนหนี จะทำให้รสน้ำชากลมกล่อมดื่มง่ายขึ้น
- หากต้องการกลิ่นหอมที่ชัดเจนมากขึ้น ใช้ไก้หว่านชงก็จะช่วยเน้นกลิ่น และช่วยให้น้ำชาเบาลงไม่เข้มเท่าการใช้ดินเผา
- หากเป็นชาผูเอ่อร์ดิบใหม่ปีแรก ๆ รสฝาดขมจะชัดเจน การใช้กาจื่อหนี หรือต้วนหนี จะทำให้รสน้ำชากลมกล่อมดื่มง่ายขึ้น
- **นี่เป็นวิธีศึกษาของเรา อย่างไรก็ตามไม่มีการชงที่ผิดหรือถูก อยู่ที่ความพอใจของผู้ดื่ม
กรรมวิธีการผลิต
- การทำชาผูเอ่อร์ต้องผ่านการ เด็ดใบชา ผึ่งชา ผัดใบชา นวดใบชา ตากแดด จะได้เป็นเหมาฉา (毛茶) ที่รอการอัดแผ่น ด้วยการนึ่งให้นิ่มแล้วอัดด้วยแม่พิมพ์ การนึ่งนี้ทำให้ชาได้รับความชื้นเล็กน้อยอีกครั้ง ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ชาพัฒนารสชาติได้
- เมื่อต้องการดื่มจะใช้มีดแซะ ใบชาเป็นเส้น ๆ สีเขียวเข้มในปีแรก สีออกน้ำตาลเมื่อเก็บเก่า
รสชาติและกลิ่น
- กลิ่น: กลิ่นดอกไม้ น้ำผึ้ง มอส
- รสชาติ: รสขมนิดเดียวแล้วหวานตามทันที น้ำชาที่เข้มข้น เนียนนุ่ม ยิ่งชงยิ่งหวาน ชงทนมาก ทิ้งรสหวานไว้ในปากและลิ้นยาวนาน
คุณประโยชน์
- ชาผูเอ่อร์ดิบให้คาเฟอีน และความตื่นตัวสูง ช่วยตัดเลี่ยนอาหารมื้อหลักได้ดี กลิ่นหอมที่ให้พลังและความรู้สึกสดชื่น
คำแนะนำ
- เหมาะกับผู้ชอบชาที่มีน้ำชาหลายมิติ เข้มข้น หนักแน่น หรือสนใจคาแรคเตอร์ชาผูเอ่อร์ดิบ
บทความที่เกี่ยวข้อง